Local SEO กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของร้านอาหารไทยและร้านนวดในโลกออนไลน์

Local SEO คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ร้านอาหารไทยและร้านนวดเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ ช่วยเพิ่มโอกาสให้คนค้นเจอร้านคุณผ่าน Google และแข่งขันกับธุรกิจใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า Local SEO คืออะไร มีความสำคัญต่อธุรกิจร้านอาหารไทยและร้านนวดอย่างไร รวมถึงขั้นตอนการทำ Local SEO ที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในผลการค้นหา และดึงดูดลูกค้าในท้องถิ่นได้อย่างแม่นยำ

Local SEO คืออะไร?

Local SEO คือ การทำ SEO ที่มุ่งเน้นไปที่การตลาดสำหรับธุรกิจท้องถิ่น (Local Business) โดยเฉพาะ กลยุทธ์นี้จะโฟกัสไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์และข้อมูลธุรกิจของคุณ เพื่อให้ปรากฏในผลการค้นหาเมื่อผู้ใช้งานค้นหาสินค้าหรือบริการในพื้นที่ใกล้เคียง พูดง่าย ๆ คือ การทำให้ร้านค้าของคุณติดอันดับการค้นหาในหน้าแรกของ Google ผ่านคำค้นหาที่ระบุรายละเอียดสถานที่เพิ่มลงไป

หลักการทำ SEO นั้นเป็นหลักการสากลภายใต้กฎเกณฑ์ของ Google เหมือนกันทั้งหมด แต่การลงมือทำนั้น แต่ละธุรกิจต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน การทำ Local SEO ก็คือการปรับการทำ SEO ให้เหมาะกับธุรกิจของเรานั่นเอง มันเป็นกลยุทธ์สำหรับร้านค้าเล็ก ๆ หรือธุรกิจท้องถิ่น ที่เราจะเอาไว้สู้กับเว็บใหญ่ ๆได้ Local SEO ไม่ได้จำกัดความยาวของ Keyword แต่ต้องทำให้อัลกอริทึมของ Google เข้าใจได้ว่าธุรกิจของคุณอยู่ในพื้นที่นั้นจริง ๆ

Local Search คืออะไร?

Local Search คือพฤติกรรมการค้นหาที่ผู้ใช้งานระบุตำแหน่งที่ตั้งหรือใช้คำที่แสดงถึงความต้องการในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น หากคุณต้องการหาร้านอาหารไทยอร่อย ๆ ในย่านบางกะปิ คุณก็อาจจะค้นหาด้วยคำว่า “ร้านอาหารไทย บางกะปิ” หรือหากคุณกำลังมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างร้านนวดในกรุงเทพฯ คุณก็อาจจะค้นหาคำว่า “ร้านนวด สุขุมวิท” เป็นต้น ยิ่งคุณระบุคำค้นหาให้มีสถานที่หรือภาษาท้องถิ่นที่ใช้เรียกได้ชัดเจนมากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายค้นหาเว็บไซต์ของคุณเจอได้ง่าย และช่วยทำให้เว็บไซต์ติดหน้า Google ในหน้าแรก ๆ ได้มากกว่าการทำ SEO ใน Keyword อื่น ๆ ที่มีการแข่งขันสูง

ตัวอย่าง Local SEO Keyword ที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ร้าน” “โรงงาน” “บริษัท” สามารถนำมาทำ Local SEO ได้ทั้งหมด โครงสร้างของ Longtail Keyword ที่ใช้ในการทำ Local SEO มักจะเป็น “ประเภทธุรกิจ + พื้นที่”

สำหรับร้านอาหารไทย:
- ร้านอาหารไทย + ชื่อเมือง (เช่น “L4U London Thai Restaurant”)
- ร้านอาหารไทย + ชื่อเขต/ย่าน (เช่น “Camden Thai Kitchen”, “Authentic Thai Food Chelsea London”)
- ร้านอาหาร + สถานที่ท่องเที่ยว (เช่น “Thai Street Food – Tower Bridge”)
- ร้านอาหาร + ใกล้ฉัน (Restaurant Near Me)

สำหรับร้านนวด: (แม้แหล่งข้อมูลจะไม่ได้ยกตัวอย่างร้านนวดโดยตรง แต่หลักการเดียวกันสามารถปรับใช้ได้17)
- ร้านนวด + ชื่อจังหวัด/อำเภอ (เช่น “L4U London Thai Massage”, “Liverpool Thai Massage”)
- ร้านนวด + ชื่อเขต/ย่าน (เช่น “L4U Chelsea Thai Massage”)
- ร้านนวด + ใกล้ฉัน

ความแตกต่างระหว่างพื้นที่ของกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด

ในเมืองใหญ่ ควรโฟกัสที่ชื่อ เขต เป็นหลัก เพราะความหนาแน่นของประชากรจะส่งผลต่อปริมาณการค้นหาคำนั้น ๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น “Brixton Thai Flavour” (เขต) หรือ “Goodwin’s Thai Kitchen” (Goodwin’s Court ใกล้ Leicester Square)
ต่างจังหวัด (จังหวัดที่ไม่ใหญ่): จะเน้นชื่อจังหวัดตรง ๆ เลย และอาจเสริมด้วยชื่ออำเภอหรือประเภทธุรกิจเพื่อให้พิกัดแคบลง เช่น “Jericho Thai Table – Oxford”

คุณสามารถตรวจสอบได้ 2 วิธี:

เช็คจากหน้าแสดงผลการค้นหา (Google SERP): ให้คุณพิมพ์คำค้นหาที่คุณต้องการลงไปบน Google หากมีแผนที่ Google Map แสดงอยู่บนผลการค้นหา แสดงว่า Keyword นี้คุณต้องปรับ On-page เพื่อทำ Local SEO ด้วย
เช็ค Local SEO บน Ubersuggest หรือเครื่องมือ Keyword Research อื่นๆ: ใส่ Keyword ที่คุณต้องการเข้าไปเช็คที่ Ubersuggest จากนั้นไปดูที่ Keyword ideas หากการแสดงผลของ Keyword นั้นมีชื่อสถานที่ต่อท้าย แสดงว่า Keyword นี้เราต้องทำ Local SEO ด้วย เครื่องมืออื่น ๆ ที่แนะนำ ได้แก่ Google Keyword Planner, Keywordtool.io, KWFinder

Local SEO สำคัญอย่างไรสำหรับร้านอาหารไทยและร้านนวด?

การทำ Local SEO ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์การตลาด แต่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้านชัดเจน โดยเฉพาะร้านอาหารไทยและร้านนวด ที่พึ่งพาลูกค้าในพื้นที่เป็นหลัก ประโยชน์ที่ได้รับจาก Local SEO มีหลากหลายและส่งผลต่อความสำเร็จของธุรกิจโดยตรง

ช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนและแม่นยำ: Local SEO คือการทำการตลาดแบบ Niche Marketing ที่มุ่งเน้นเข้าหากลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ซึ่งคุณมีโอกาสเอาชนะธุรกิจเจ้าใหญ่ ๆ ได้ เนื่องจากพวกเขาอาจไม่ได้ลงมาโฟกัสในพื้นที่ธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่ สำหรับร้านอาหารไทยและร้านนวด การระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนนี้หมายถึงการเข้าถึงลูกค้าที่มีแนวโน้มจะมาใช้บริการจริง ๆ สูง
ประหยัดเวลาและงบประมาณในการทำ SEO: เมื่อการแข่งขันจำกัดวงอยู่แค่บริเวณใกล้เคียง ทำให้คุณใช้ช่องว่างเหล่านี้ในการสร้างตัวตนของธุรกิจได้ดีกว่า แถมยังช่วยประหยัดเวลาในการทำ SEO รวมถึงประหยัดงบประมาณในการลงทุนเพื่อเข้าแข่งขันในการทำอันดับอีกด้วย
เพิ่มโอกาสในการถูกค้นพบอย่างรวดเร็ว: จากสถิติพบว่ามีคนค้นหาข้อมูลบน Google ด้วยการใช้ Local Intent หรือการระบุสถานที่ตั้งของธุรกิจแบบชัดเจนสูงถึง 46% และมีผู้ใช้งานถึง 88% ค้นหาธุรกิจแบบ Local Business บนมือถือ เพื่อโทรสอบถามข้อมูล จากนั้นค่อยเดินทางไปที่ร้านภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าถึง 72% ที่ค้นหาร้านค้าหรือบริการในรัศมี 8 กิโลเมตรจากที่อยู่ ตัวเลขเหล่านี้ยืนยันว่าลูกค้าที่ค้นหาผ่าน Local Search มักต้องการใช้บริการทันที และมีแนวโน้มที่จะเข้าร้านจริงมากกว่าลูกค้าทั่วไป สำหรับร้านอาหารไทยที่ลูกค้ามักจะตัดสินใจทานอาหารแบบทันทีทันใด หรือร้านนวดที่ลูกค้าต้องการผ่อนคลายอย่างเร่งด่วน การถูกค้นเจอในอันดับแรก ๆ ในพื้นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง
สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ: การมีข้อมูลธุรกิจที่ครบถ้วนบน Google My Business และเว็บไซต์ พร้อมด้วยรีวิวที่ดีจากลูกค้า จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกคุณได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับร้านอาหารไทยที่รสชาติและบรรยากาศเป็นสิ่งสำคัญ หรือร้านนวดที่ความสะอาดและคุณภาพบริการคือปัจจัยหลัก รีวิว 5 ดาวจำนวนมากจะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้นอย่างแน่นอน3
ช่วยเพิ่มยอดขายและลูกค้าขาจร: การทำ Local SEO ไม่เพียงแต่เพิ่มการมองเห็น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าใหม่ ๆ ที่ไม่รู้จักธุรกิจของคุณค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าขาจรที่มาจากนอกพื้นที่ เช่น นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่เดินทางมาทำธุระ เมื่อธุรกิจของคุณปรากฏในหน้า Google พร้อมข้อมูลสำคัญอย่างเวลาเปิด-ปิด พิกัด รูปภาพ และรีวิวที่ดี ลูกค้าเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพของ Conversion Rate: Local SEO ช่วยให้ลูกค้าเกิดการมีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งแบบฟอร์ม การโทรสอบถาม การส่งอีเมล การติดตามธุรกิจบนโลกออนไลน์ หรือการเดินทางมายังหน้าร้าน ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายทางอ้อม
เพิ่มการแข่งขันให้กับธุรกิจ: การทำ Local SEO บังคับให้คุณต้องคอยดูคู่แข่งตลอดว่าพวกเขามีการทำการตลาดอะไรบ้าง คุณจึงจะสามารถนำมาพัฒนาธุรกิจของคุณได้อย่างต่อเนื่อง
ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่: หลังการระบาดของโควิด-19 ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาอุดหนุนและต้องการใช้บริการธุรกิจท้องถิ่นกันมากขึ้น นี่คือโอกาสสำคัญที่Local SEO จะช่วยให้ร้านอาหารไทยและร้านนวดของคุณถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้นตามกระแสนี้

Local SEO จัดอันดับอย่างไร?

ในการจัดอันดับของเว็บไซต์บน Google นั้น Google ใช้อัลกอริทึมที่ชื่อว่า Pigeon เป็นตัวจัดลำดับการค้นหาที่ดีที่สุดตามตำแหน่งของผู้ใช้งาน ซึ่งจะมีความแตกต่างจากการทำ SEO แบบปกติ ปัจจัยหลักที่ Google ใช้ในการจัดอันดับ Local SEO ได้แก่

ตำแหน่งของผู้ใช้งาน: Google จะประมวลผลจากตำแหน่ง Location ของมือถือที่เปิดไว้ด้วย โดยเฉพาะการแสดงผลบนโทรศัพท์มือถือ
การระบุ NAP (Name, Address, Phone Number) ของธุรกิจ: ความถูกต้องและครบถ้วนของชื่อธุรกิจ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ เป็นสิ่งสำคัญ
การมีข้อมูลธุรกิจอยู่ใน Google My Business (GMB): GMB เป็นเครื่องมือหลักที่ Google ใช้ในการแสดงผลธุรกิจท้องถิ่น
มีคีย์เวิร์ดที่ใช้อยู่ในโปรไฟล์ของ Google My Business: การใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสถานที่ใน GMB มีผลต่อการจัดอันดับ
มีรีวิวแสดงความคิดเห็นจากลูกค้าและคีย์เวิร์ดที่ใช้อยู่ในรีวิว: ปริมาณและคุณภาพของรีวิว พร้อมทั้งการที่รีวิวมีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและการจัดอันดับ Google จะตรวจสอบว่าผู้เขียนรีวิวเคยมายังตำแหน่งร้านจริงหรือไม่
ปริมาณการเช็คอิน ณ สถานที่ตั้งธุรกิจ: การที่ลูกค้าเช็คอินที่ร้านบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็เป็นสัญญาณที่ดี
ปริมาณแชร์ในโซเชียลมีเดีย: การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดียก็มีผล
มีเรทติ้งของธุรกิจแสดงบน Google Map: คะแนนรีวิวโดยรวมบน Google Maps มีส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้า

ขั้นตอนการทำ Local SEO แบบเจาะลึก: พิชิตใจลูกค้าท้องถิ่น

เมื่อเข้าใจความหมายและความสำคัญของ Local SEO แล้ว สิ่งต่อไปคือการลงมือทำ Local SEO ให้เกิดผล ซึ่งประกอบด้วยหลายขั้นตอนที่ต้องทำอย่างละเอียดและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับแต่งผ่านเครื่องมือสำคัญอย่าง Google My Business (GMB) และการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณ

Step 1: เปิดบัญชี Google My Business (GMB) และเติมข้อมูลให้สมบูรณ์

Google My Business คือ บริการฟรีจาก Google ที่ช่วยสนับสนุนร้านค้าและธุรกิจท้องถิ่นให้สามารถเพิ่มข้อมูลธุรกิจลงในฐานข้อมูลของ Google และจะแสดงผลเมื่อมีการค้นหา “ชื่อธุรกิจของคุณ” ที่เพิ่มลงไปแล้ว หรือที่เรียกว่า “Local Pack” หรือ “Local Biz Results” ซึ่งมักจะอยู่หน้าแรกด้านบนลิงก์สีฟ้าที่เป็นอันดับเว็บไซต์ก่อนทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้งานเห็นและมีโอกาสคลิกก่อน GMB เป็นเครื่องมือจัดการกับธุรกิจของคุณบนหน้า Google Maps และ Search ผู้ใช้งานสามารถดูชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ รวมถึงลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ได้ สถิติแสดงให้เห็นว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อัตราการใช้คำค้นหา “ใกล้ฉัน” (Near Me) หรือ “Close By” เพิ่มขึ้นถึง 900%

ขั้นตอนการสมัคร Google My Business:

เข้าเว็บไซต์ https://www.google.com/intl/th_th/business/
ลงชื่อเข้าใช้งาน (Login) ด้วยบัญชี Gmail หรือสมัครบัญชี Gmail ใหม่
ค้นหาหรือเพิ่มธุรกิจของคุณ หากไม่เคยสมัคร ให้คลิก ‘เพิ่มธุรกิจของคุณใน Google’
ใส่ชื่อธุรกิจและเลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุด (เช่น ร้านอาหารไทย, ร้านนวดแผนไทย)
เลือกที่จะแสดงตำแหน่งใน Google Maps และ Search
กรอกข้อมูลที่อยู่บริษัทหรือที่ตั้งธุรกิจของคุณให้ครบถ้วน
ตรวจสอบที่ตั้งบน Google Map
หากธุรกิจสามารถให้บริการนอกพื้นที่ได้ ให้เลือก ‘ใช่’ และเพิ่มพื้นที่ให้บริการ (สูงสุด 20 พื้นที่)สำหรับร้านนวดที่รับบริการนอกสถานที่ หรือร้านอาหารไทยที่มีบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ สามารถระบุได้
กรอกข้อมูลติดต่อสำหรับลูกค้า เช่น เบอร์โทรศัพท์ และ URL เว็บไซต์
เลือกรับการอัปเดตและคำแนะนำเพิ่มเติมจาก Google
ยืนยันการสมัคร และเข้าสู่หน้า Dashboard เพื่อจัดการโปรไฟล์

การเติมข้อมูลที่ Google My Business ให้สมบูรณ์ Google เกิดมาเพื่อเป็น Information ดังนั้นทุกจุดที่เขาให้เรากรอกข้อมูลใน Google My Business เราต้องไปเติมให้ครบทุกช่องเท่าที่เราจะเติมลงไปได้

ตั้งชื่อธุรกิจบน GMB: ชื่อธุรกิจ + Keyword ชื่อธุรกิจของคุณไม่ควรใส่แต่ชื่อร้านค้าอย่างเดียว ให้นำ Keyword สัก 1-2 คำมาประกอบที่ชื่อธุรกิจบน GMB ด้วย เช่น “ร้านอาหารไทย [ชื่อย่าน]” หรือ “ร้านนวดแผนไทย [ชื่อเขต]” Google ต้องการความชัดเจนเสมอ ดังนั้นต้องเลือกคำมาใส่เพื่อให้ Google เข้าใจว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นจริง ๆ หากยัด Keyword มากเกินไป Google จะไม่สนใจธุรกิจของเรา
ใส่คำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ (Description)3 อย่าลืมนำคำ Keyword หลักใส่เข้าไปด้วย เขียนให้ได้สัก 4-5 บรรทัดขึ้นไป สำหรับร้านอาหารไทย ควรเน้นจุดเด่น เช่น “ร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับ ย่าน [ชื่อย่าน] วัตถุดิบสดใหม่ บรรยากาศอบอุ่น” สำหรับร้านนวด อาจเน้น “บริการนวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ [ชื่อเขต] โดยผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 10 ปี”
ที่อยู่ต่าง ๆ เขียนให้ละเอียดเลย เพราะการทำ Local SEO คือการทำให้ User ซื้อของบนร้านค้าที่ใกล้บ้าน ดังนั้น ที่อยู่ควรเขียนให้ละเอียด ชื่อหมู่บ้าน ชื่อซอย ชื่อถนน เขียนลงไปให้ครบ
เลือกหมวดหมู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราทำ เลือกหมวดหมู่ธุรกิจให้เหมาะกับสิ่งที่คุณขาย หรือเหมาะกับสิ่งที่คุณทำ สามารถเลือกได้เต็มที่ 9 หมวดหมู่ แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกครบ 9 หมวดหมู่ เลือกสัก 3-4 หมวดหมู่ก็พอ เช่น สำหรับร้านอาหารไทย อาจเลือก “Thai Restaurant”, “Restaurant”, “Catering Service” (ถ้ามี) สำหรับร้านนวด อาจเลือก “Massage Therapist”, “Spa”, “Health and Wellness Center”
เลือกพื้นที่ให้บริการเป็นเขตที่ร้านเราตั้งอยู่ เลือกพื้นที่ให้บริการที่ใกล้กับที่ตั้งร้านของคุณให้ได้มากที่สุด หากมีหลายสาขา สามารถเลือกที่ตั้งหลายเขตได้ แต่ถ้าคุณเลือกเขตเป็นประเทศไทย จะไม่ส่งผลดีด้านการทำ Local SEO เพราะจะแพ้ธุรกิจท้องถิ่นในเขตนั้น ๆ
ใส่เบอร์โทรศัพท์ และเว็บไซต์ ให้เรียบร้อย ข้อมูลการติดต่อที่ครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ
ลงข้อมูลทุกอย่างที่ใส่ได้ เช่น บทความ ผลิตภัณฑ์ บริการต่าง ๆ ของเรา มองว่า GMB ก็เหมือนแฟนเพจ Facebook ที่มีพื้นที่ให้เราเพิ่มคอนเทนต์ อัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ เข้าไปได้ตลอด ให้เขียนเข้าไปเลย เขียนยิ่งเยอะยิ่งดี
สำหรับร้านอาหารไทย สามารถใส่เมนูอาหาร โปรโมชั่นพิเศษ หรือรูปภาพบรรยากาศร้าน
- สำหรับร้านนวด สามารถใส่รายการบริการ ราคา หรือแพ็กเกจนวดต่าง ๆ

รูปภาพต่าง ๆ ต้องสวย ให้ดูน่ากดเข้าไปดู โดยเฉพาะรูปภาพหน้าปก ให้เลือกภาพสวย ๆ มาใส่ได้เลย ควรใส่ประมาณ 8-10 รูป สำหรับร้านอาหารไทย รูปภาพอาหารที่สวยงามและน่ารับประทานจะดึงดูดลูกค้าได้มาก สำหรับร้านนวด รูปภาพห้องนวดที่สะอาด บรรยากาศผ่อนคลาย และผู้ให้บริการที่มีความเป็นมืออาชีพจะสร้างความมั่นใจ
เติมรีวิวบน GMB ถ้ามีลูกค้ามาช่วยเขียนรีวิวร้านของเราให้เยอะ ๆ ก็ยิ่งดี อาจมีกลยุทธ์จูงใจให้ลูกค้ามารีวิว เช่น มอบส่วนลดหรือของที่ระลึก แต่การเติมรีวิวต้องทำให้เนียน ๆ คนที่จะเขียนรีวิวต้องเคยมาอยู่ในตำแหน่งร้านของเราจริง ๆ ด้วย เพราะ Google จะสะกดรอยทุกคนว่าเคยมายังตำแหน่งดังกล่าวจริงหรือไม่ ควรตอบกลับรีวิวอย่างมืออาชีพเสมอ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวเชิงบวกหรือลบ รีวิว 5 ดาวจำนวนมากช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับแรก ๆ ของ Google

Step 2: ปรับปรุง On-Page เว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ นอกจากการปรับปรุง Google My Business แล้ว คุณจะต้องปรับปรุง On-Page ของเว็บไซต์ในหน้า Local Location Page ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นด้วย

สร้างหน้า Local Location Page บนเว็บไซต์ คุณสามารถสร้างเนื้อหาเว็บไซต์ให้มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่นั้น ๆ ด้วย Longtail Keyword ซึ่งเป็น Keyword เดียวกันกับที่คุณใช้ทำ Local SEO บน Google Map โดยทำหน้า Landing Page นี้ออกมาเป็นหน้าแยกจากหน้า Keyword หลักการทำ Local Location Page เช่นนี้จะเหมาะทั้งสำหรับธุรกิจที่ต้องการทำอันดับ SEO รวมถึงธุรกิจที่มีหลายสาขา
- สำหรับร้านอาหารไทยที่มีหลายสาขาในแต่ละย่าน ควรมีหน้า Landing Page แยกแต่ละสาขา เช่น “L4U Thai Kitchen Cambridge” และ “L4U Thai Kitchen Oxford”
- สำหรับร้านนวดที่มีบริการเฉพาะทางหรือในหลายพื้นที่ ก็ควรสร้างหน้าเฉพาะ เช่น “[ชื่อเขต] Thai Massage” หรือ “[ชื่อย่าน]Thai Therapy”
- ปรับปรุง Longtail Keyword ในเนื้อหาเว็บไซต์ในหน้า On-Page ส่วนของ Title, Meta Description, Heading และในเนื้อหา ต้องมีใส่ชื่อสถานที่ เขต หรือจังหวัดปะปนเข้าไปด้วยการใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่เฉพาะช่วยให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับสูงในผลการค้นหาของผู้ที่อยู่ในพื้นที่นั้น ๆ

ทำ Personalized Content ให้ตรงกับ Keyword และ Search Intent เพื่อไม่ให้ Google มองว่าเป็นเว็บไซต์ที่เน้นการสแปม Keyword ควรทำเนื้อหาบนหน้า Local Location Page ให้ตรงกับ Keyword ที่ใช้มากขึ้น รวมถึงควรทำเนื้อหาคอนเทนต์แวดล้อมให้ตรงกับ Search Intent ของผู้ใช้งาน
- สำหรับร้านอาหารไทย อาจทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ “อาหารไทยโบราณที่หาทานยากในย่าน [ชื่อย่าน]” หรือ “รีวิวเมนูเด็ดที่ร้านอาหารไทย [ชื่อร้าน]”
- สำหรับร้านนวด อาจเขียนบทความ “ประโยชน์ของการนวดเท้าเพื่อสุขภาพในชีวิตคนเมือง [ชื่อเขต]” หรือ “เทคนิคการเลือกร้านนวดที่ดีที่สุดใน [ชื่อจังหวัด]”

ทำ Internal Link ในหน้าที่เกี่ยวข้อง อย่าลืมทำลิงก์ไปยังบทความที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์ของคุณเอง เพื่อให้ Google รู้และเข้าใจได้ว่าเนื้อหาแต่ละหน้าสัมพันธ์กันอย่างไรบ้าง
ทำ Mobile Friendly ผู้ใช้งานมักเสิร์ชข้อมูลเกี่ยวกับ Local Business ด้วยมือถือ ดังนั้น จึงควรลงทุนออกแบบให้เว็บไซต์แสดงผลได้ดี และใช้งานได้สะดวกสบายบนมือถือ
เพิ่มตำแหน่งที่ตั้งของธุรกิจลงบนเว็บไซต์ (Embed Google Map) โดยการฝัง Google Map ลงไปบนหน้า Local Location Page โดยตรง แต่ไม่ควรเอาแผนที่ไปฝังไว้ที่ Footer เพราะ Google Map คือ Iframe ซึ่งเป็นตัวทำให้เปิดหน้าเว็บช้าลง หากวางไว้ที่ Footer จะส่งผลให้หน้าอื่น ๆ เปิดเว็บช้าไปด้วยการแสดงตำแหน่งบนแผนที่ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบายในการติดต่อ
ใส่รายละเอียดของธุรกิจบน Local Location Page ให้ครบถ้วน เช่น ช่วงเวลาให้บริการเปิด-ปิด, ที่อยู่แบบละเอียด (หมู่บ้าน ถนน ซอย เขต แขวง ตำบล อำเภอ), เบอร์ติดต่อ, ข้อมูลสินค้าและบริการ, รีวิวของลูกค้า, ข้อมูลโปรโมชั่น
ใส่ Schema Markup: Schema Markup คือโค้ดหรือชุดคำสั่งเล็ก ๆ ที่แทรกไว้ใน HTML ซึ่งช่วยให้ Google เข้าใจมากขึ้นว่าข้อมูลในหน้านั้นเป็นประเภทไหนหรือเกี่ยวกับอะไร การใส่ Schema Markup จะทำให้ Google ค้นหาข้อมูลได้ไหลลื่น มีอิทธิพลในการดึงตำแหน่งผลการค้นหาให้สูงขึ้น และแสดงผลเป็น Rich Snippets ซึ่งเพิ่มโอกาสการเข้าถึงและเพิ่มความโดดเด่นให้เว็บไซต์สำหรับร้านอาหารไทยและร้านนวด ควรใช้ Schema Markup ประเภท “Restaurant” หรือ “LocalBusiness”

Step 3: ปรับปรุง Off-Page ให้กับเว็บไซต์ นอกจากการทำ On-Page แล้ว การทำ Off-Page ก็สำคัญสำหรับการทำ Local SEO เช่นเดียวกัน

เพิ่มแผนที่ไปยัง Social Media ต่าง ๆ ที่ไหนใส่ได้ เอาแผนที่ Google Map ไปแปะให้หมด พวก Social media ต่าง ๆ ตัวไหนมีที่ให้เราวาง Google Map ให้เราเอาลิงก์ Google Map ไปวางให้หมด การมีเพจ Facebook ที่มีข้อมูลธุรกิจครบถ้วนก็ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและการมองเห็น
สร้าง Local Citations (ลงทะเบียนธุรกิจใน Web Directory) การเอาธุรกิจของเราไปลงประกาศบนเว็บ Listing (เว็บที่รวมรายชื่อร้านค้า) เราจะได้คะแนนในส่วนที่เป็น Backlink อีกด้วย ตัวอย่างเว็บ Listing เช่น Wongnai.com, Yellowpages.co.th, Tripadvisor.com, Yelp.com เว็บไซต์เหล่านี้ช่วยทั้งเรื่อง SEO และการโปรโมตธุรกิจ
ทำ Backlink จากเว็บไซต์ท้องถิ่น การได้รับลิงก์กลับจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น บล็อกรีวิว หรือเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและอันดับของเว็บไซต์ธุรกิจ ในแต่ละจังหวัดส่วนใหญ่มักจะมีเว็บข่าวท้องถิ่น คุณควรไปติดต่อเขาเพื่อลงประกาศ หรือติด Banner และทำลิงก์ส่งกลับมาหน้า Local SEO ของคุณ
สร้าง Local Link จากการทำ Event ต่าง ๆ และสร้างพันธมิตรเป็นการทำการตลาดแบบ Offline เพื่อโปรโมตธุรกิจอีกหนึ่งช่องทาง เพื่อทำให้ได้มาซึ่ง Local Link ที่มีคุณภาพ
- หาโอกาสใช้ร้านเป็นพื้นที่จัดงานกิจกรรมต่าง ๆ ในท้องถิ่น: เพื่อทำให้คนในพื้นที่หรือคนที่เดินทางมางานรู้จักร้าน สำหรับร้านอาหารไทย อาจจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปทำอาหารไทย หรือร้านนวดอาจจัดกิจกรรมนวดฟรีเพื่อสุขภาพในวันพิเศษ
- หา Partner ทางธุรกิจในละแวกพื้นที่เดียวกัน: การรวมกลุ่มระหว่างธุรกิจประเภทเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันในท้องถิ่น (เช่น ร้านนวดกับร้านโยคะ หรือร้านอาหารไทยกับร้านขายของชำท้องถิ่น) สามารถช่วยโปรโมตซึ่งกันและกันได้
- การให้ส่วนลดพิเศษสำหรับห้างร้านหรือบริษัทในพื้นที่นั้น ๆ: เป็นการเชิญชวนให้พนักงานขององค์กรเหล่านั้นมาใช้บริการ

ทำหน้า Portfolio เป็น listing (สำหรับธุรกิจบริการ) ธุรกิจที่ต้องบริการนอกสถานที่ (เช่น ร้านนวดที่มีบริการนวดนอกสถานที่) สามารถทำหน้า Portfolio เป็น listing เก็บ Local SEO เขตอื่น ๆ โดยเขียนเป็นบทความรีวิว ชื่อหมู่บ้าน หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่เคยมาใช้บริการ ปรับ On-page SEO ของหน้านั้นให้เรียบร้อย

การวัดผลการทำ Local SEO มีตัวชี้วัดอะไรบ้าง?

หลังจากเริ่มต้นทำ Local SEO ไปได้สักพักแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องทำต่อมา คือการวัดผลลัพธ์ของแคมเปญ เพื่อให้คุณทราบว่ากลยุทธ์ที่ใช้อยู่นั้นมีประสิทธิภาพเพียงใด และควรปรับปรุงจุดใดเพิ่มเติม

ตรวจสอบการแสดงผลใน Google Search และ Google Maps ใช้เครื่องมือเช่น Google Search Console หรือ Google My Business Insights เพื่อตรวจสอบว่าธุรกิจของคุณปรากฏในผลการค้นหาและแผนที่ในพื้นที่ที่คุณต้องการหรือไม่ รวมถึงจำนวนการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ
ตรวจสอบอันดับของคำค้นหาท้องถิ่น ใช้เครื่องมือ SEO อย่าง SEMrush หรือ Ahrefs เพื่อดูการจัดอันดับของคำค้นหาท้องถิ่นที่คุณเลือก และเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
ติดตามการเข้าชมเว็บไซต์จากผู้ใช้ในท้องถิ่น ใช้ Google Analytics เพื่อติดตามการเข้าชมจากผู้ใช้ในพื้นที่เฉพาะ เช่น จำนวนผู้เข้าชมจากเมือง หรือจังหวัดที่คุณให้บริการ
ติดตามรีวิว และการมีส่วนร่วม ตรวจสอบจำนวนและคุณภาพของรีวิวที่ได้รับบน Google My Business หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ รวมถึงการตอบคำถาม และการมีส่วนร่วมจากลูกค้า
ตรวจสอบการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ท้องถิ่น วิเคราะห์จำนวนและคุณภาพของ Backlinks ที่ได้รับจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ หรืออุตสาหกรรมท้องถิ่นนั้น ๆ

สรุป

การทำ Local SEO เป็นกลยุทธ์ที่มีพลังอย่างมากสำหรับธุรกิจท้องถิ่น โดยเฉพาะร้านอาหารไทยและร้านนวด ที่พึ่งพาการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่เป็นสำคัญ มันคือการทำ SEO ประเภทหนึ่ง ที่เราจะโฟกัสที่คำ Longtail Keyword โดยตัว Longtail นั้นจะเป็นชื่อสถานที่ หรือพื้นที่ที่ร้านค้าของเราตั้งอยู่ ลูกค้าจังหวัดอื่น ๆ ค้นหาไม่เจอเว็บของเราไม่เป็นไร แต่ต้องทำให้คนพื้นที่ หรือในจังหวัดนั้น ๆ ค้นเจอเว็บของเราให้ได้

Local SEO ช่วยให้ธุรกิจของคุณ:

ทำอันดับบน Search Engine ได้ง่ายขึ้น: จากการหลีกเลี่ยงการแข่งขันทำ SEO แบบกว้าง ๆ
กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน: เป็นการทำการตลาดแบบ Niche Marketing ที่แม่นยำ
เพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะค้นหาเจอและมาที่ร้าน: ทั้งในรูปแบบ Organic Search และ Google Map (“Local Pack”)
ได้รับความน่าเชื่อถือ: จากการแสดงข้อมูลที่ครบถ้วนและรีวิวจากลูกค้าจริง

สำหรับร้านอาหารไทย การที่ลูกค้าสามารถค้นหาเมนูที่คุณเชี่ยวชาญในย่านใกล้เคียงพร้อมเห็นรีวิวที่น่าเชื่อถือ จะเปลี่ยนผู้ค้นหาให้กลายเป็นลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

ในขณะที่ร้านนวด การปรากฏในผลการค้นหาเมื่อมีคนต้องการผ่อนคลายอย่างเร่งด่วนในพื้นที่นั้น ๆ พร้อมข้อมูลติดต่อและภาพบรรยากาศที่ดี จะเป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดลูกค้า

การทำ Local SEO ให้ประสบความสำเร็จนั้นต้องอาศัยความเข้าใจในขั้นตอนต่าง ๆ และการลงมือปรับแต่งอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการเติมข้อมูลบน Google My Business และการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีสิ่งสำคัญให้ทำมากมาย และรู้สึกว่าการทำ Local SEO ด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องซับซ้อนและใช้เวลา Local For You มีความเชี่ยวชาญโดยตรงก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณทำ Local SEO ติดอันดับได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะลงมือทำเองหรือจ้างผู้เชี่ยวชาญ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า ซึ่งจะนำไปสู่รีวิวเชิงบวกและการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

แชร์บทความนี้